Latest topics
ข่าวประชาสัมพันธ์
วัดชัยมงคลฯ ขอเชิญเข้าร่วมโครงการสร้างชุมชนเข้มแข็งและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาพอเพียง >>รายละเอียดธรรมะสว่างใจเรื่องร่วมสร้างชุมชนเข้มแข็งและสังคมคุณธรรม>>รายละเอียด
เชิญพุทธศาสนิกชนทุกท่านร่วมทำวัตรเช้า(05.00 น.)-เย็น(20.00 น.)
เพิ่มเติม ข่าวโครงการ ข่าวกิจกรรม
ค้นหา
ธรรมะสว่างใจเรื่อง มีแต่ไม่เอา
2 posters
หน้า 1 จาก 1
ธรรมะสว่างใจเรื่อง มีแต่ไม่เอา
สำหรับวันนี้อาตมาภาพพระครูสังฆรักษ์วิชพงษ์ อิสฺสรธมฺโม เจ้าอาวาสวัดชัยมงคลธรรมวราราม ต.ไหล่หิน อ.เกาะคา จ.ลำปาง จะได้นำเกร็ดธรรมะจากพ่อแม่ครูจารย์องค์สำคัญอีกองค์หนึ่งมาเล่าสู่กันฟัง ท่านมีบ้านเกิดที่จังหวัดสุรินทร์นามว่า หลวงปู่ดุลย์ อตุโล ได้ชื่อว่าเป็นแม่ทัพธรรมคนสำคัญที่สุดของจังหวัดสุรินทร์
ท่านเป็นลูกศิษย์ของพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ซึ่งเป็นพระกรรมฐานที่เคร่งครัดในธุดงควัตรเป็นอย่างมาก หลวงปู่ดุลมรณภาพเมื่อพ.ศ.2526 ด้วยอายุ 96 ปี เมื่อครั้งท่านยังมีชีวิต อยู่ ณ วัดบูรพาราม ในอำเภอเมือง เป็นจุดหมายปลายทางของผู้ใฝ่ธรรมทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์
ท่านเป็นศิษย์รุ่นแรกของพระอาจารย์มั่น จึงเป็นที่เคารพนับถือของพระกรรมฐานรุ่นหลังๆเป็นอย่างมาก แม้จะมีประสบการณ์โชกโชนในกรรมฐานทั้งฝ่ายสมถะและวิปัสสนา แต่ท่านไม่เคยอ้างตนเป็น
“ผู้วิเศษ” เวลามีใครมาชวนคุยเรื่องศักดิ์สิทธิ์ อิทธิฤทธิ์ และสิ่งอาถรรพ์ลี้ลับท่านจะตัดบทหรือไม่สนใจเอาเลย แม้จะมีใครมาขอให้ท่านช่วยกำหนดฤกษ์ยาม เช่นหาวันดีที่จะบวช หรือหาฤกษ์จัดงานมงคล
ท่านมักบอกว่า “วันไหนก็ได้ วันไหนก็ดี”
สิ่งที่หลวงปู่สอนล้วนตรงตามที่พระพุทธเจ้าทรงสอนว่าวันไหนที่ประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ วันไหนที่ทุกอย่างพร้อมวันนั้นเป็นฤกษ์ดี เรื่องวันดีวันเสียนี้ เป็นความงมงายอย่างมากของชาวพุทธในยุคปัจจุบันเพราะไม่ปฏิบัติตามที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอน
อย่างไรก็ตามหลวงปู่ดุลยอมรับว่าวัตถุมงคลยังมีประโยชน์อยู่บ้างสำหรับคนบางจำพวก ดังท่านเคยกล่าวว่า “สำหรับผู้มีจิตใจเพลิดเพลินอยู่ ยังยินดีในการเกิดตายในวัฏฏสงสาร ยังไม่สามารถหันมาสู่การปฏิบัติธรรมได้ ก็ให้อาศัยวัตถุภายนอกเช่นวัตถุมงคลนั้น “ไม่มีอะไร เป็นเพียงสิ่งช่วยด้านกำลังใจเท่านั้น”
คราวหนึ่งมีคนเอาเครื่องรางของขลังออกมาอวดกันเองต่อหน้าท่าน คนหนึ่งมีเขี้ยวหมูตัน อีกคนมีนอแรด ต่างอวดว่าของตนวิเศษ ดีอย่างนั้นอย่างนี้ มีคนถามว่าอย่างไหนวิเศษกว่ากัน ท่านตอบว่า “ไม่มีดี ไม่มีวิเศษอะไรหรอก เป็นของสัตว์เดรัจฉานเหมือนกัน”
นอกจากหลวงปู่ จะไม่แสดงตัวเป็นผู้วิเศษแล้ว ท่านยังไม่อวดอ้างว่าเป็นพระอริยะแล้ว แม้คนส่วนมากที่เชื่อเช่นนั้น แต่ถึงจะซักไซ้ไล่เลียงถามถึงคุณวิเศษของท่านเพียงใด ท่านก็ไม่เคยอวดตน
เคยมีคนถามหลวงปู่สั้นๆว่า ท่านยังมีความโกรธอยู่ไหม แทนที่ท่านจะตอบว่า หมดโกรธ หมดโลภ หมดหลงแล้ว ท่านตอบสั้นๆว่า “มี แต่ไม่เอา”
สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของคำสอนหลวงปู่ดุลย์ที่อาตมาได้ยกขึ้นมาเป็นแสงสว่างส่องทางชีวิตแก่พุทธศาสนิกชนทั้งหลายเพราะในยุคปัจจุบันชาวพุทธเรามีวิธีคิดที่คลาดเคลื่อนจากคำสอนของพระพุทธเจ้าออกไปทุกที
กลายเป็นศาสนาแห่งพิธีกรรมไปทุกวัน น้อยคนที่จะตั้งใจภาวนาเพื่อเข้าถึงความพ้นทุกข์ทางจิตใจ ฉะนั้นชาวพุทธเราต้องพยายามศึกษาพระไตรปิฏก แล้วพิจารณาให้แยบคายว่าสิ่งใดเป็นคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้าชีวิตของเราจะได้ไม่ไถลออกไปนอกทาง มรรค ผล พระนิพพาน
สุดท้ายนี้อาตมาขอความสุขความเจริญและสิ่งที่ดีงามจงบังเกิดมีแกพุทธศาสนิกชนผู้ยินดีในธรรมทุกท่านทุกคนเทอญ.
ท่านเป็นลูกศิษย์ของพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ซึ่งเป็นพระกรรมฐานที่เคร่งครัดในธุดงควัตรเป็นอย่างมาก หลวงปู่ดุลมรณภาพเมื่อพ.ศ.2526 ด้วยอายุ 96 ปี เมื่อครั้งท่านยังมีชีวิต อยู่ ณ วัดบูรพาราม ในอำเภอเมือง เป็นจุดหมายปลายทางของผู้ใฝ่ธรรมทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์
ท่านเป็นศิษย์รุ่นแรกของพระอาจารย์มั่น จึงเป็นที่เคารพนับถือของพระกรรมฐานรุ่นหลังๆเป็นอย่างมาก แม้จะมีประสบการณ์โชกโชนในกรรมฐานทั้งฝ่ายสมถะและวิปัสสนา แต่ท่านไม่เคยอ้างตนเป็น
“ผู้วิเศษ” เวลามีใครมาชวนคุยเรื่องศักดิ์สิทธิ์ อิทธิฤทธิ์ และสิ่งอาถรรพ์ลี้ลับท่านจะตัดบทหรือไม่สนใจเอาเลย แม้จะมีใครมาขอให้ท่านช่วยกำหนดฤกษ์ยาม เช่นหาวันดีที่จะบวช หรือหาฤกษ์จัดงานมงคล
ท่านมักบอกว่า “วันไหนก็ได้ วันไหนก็ดี”
สิ่งที่หลวงปู่สอนล้วนตรงตามที่พระพุทธเจ้าทรงสอนว่าวันไหนที่ประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ วันไหนที่ทุกอย่างพร้อมวันนั้นเป็นฤกษ์ดี เรื่องวันดีวันเสียนี้ เป็นความงมงายอย่างมากของชาวพุทธในยุคปัจจุบันเพราะไม่ปฏิบัติตามที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอน
อย่างไรก็ตามหลวงปู่ดุลยอมรับว่าวัตถุมงคลยังมีประโยชน์อยู่บ้างสำหรับคนบางจำพวก ดังท่านเคยกล่าวว่า “สำหรับผู้มีจิตใจเพลิดเพลินอยู่ ยังยินดีในการเกิดตายในวัฏฏสงสาร ยังไม่สามารถหันมาสู่การปฏิบัติธรรมได้ ก็ให้อาศัยวัตถุภายนอกเช่นวัตถุมงคลนั้น “ไม่มีอะไร เป็นเพียงสิ่งช่วยด้านกำลังใจเท่านั้น”
คราวหนึ่งมีคนเอาเครื่องรางของขลังออกมาอวดกันเองต่อหน้าท่าน คนหนึ่งมีเขี้ยวหมูตัน อีกคนมีนอแรด ต่างอวดว่าของตนวิเศษ ดีอย่างนั้นอย่างนี้ มีคนถามว่าอย่างไหนวิเศษกว่ากัน ท่านตอบว่า “ไม่มีดี ไม่มีวิเศษอะไรหรอก เป็นของสัตว์เดรัจฉานเหมือนกัน”
นอกจากหลวงปู่ จะไม่แสดงตัวเป็นผู้วิเศษแล้ว ท่านยังไม่อวดอ้างว่าเป็นพระอริยะแล้ว แม้คนส่วนมากที่เชื่อเช่นนั้น แต่ถึงจะซักไซ้ไล่เลียงถามถึงคุณวิเศษของท่านเพียงใด ท่านก็ไม่เคยอวดตน
เคยมีคนถามหลวงปู่สั้นๆว่า ท่านยังมีความโกรธอยู่ไหม แทนที่ท่านจะตอบว่า หมดโกรธ หมดโลภ หมดหลงแล้ว ท่านตอบสั้นๆว่า “มี แต่ไม่เอา”
สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของคำสอนหลวงปู่ดุลย์ที่อาตมาได้ยกขึ้นมาเป็นแสงสว่างส่องทางชีวิตแก่พุทธศาสนิกชนทั้งหลายเพราะในยุคปัจจุบันชาวพุทธเรามีวิธีคิดที่คลาดเคลื่อนจากคำสอนของพระพุทธเจ้าออกไปทุกที
กลายเป็นศาสนาแห่งพิธีกรรมไปทุกวัน น้อยคนที่จะตั้งใจภาวนาเพื่อเข้าถึงความพ้นทุกข์ทางจิตใจ ฉะนั้นชาวพุทธเราต้องพยายามศึกษาพระไตรปิฏก แล้วพิจารณาให้แยบคายว่าสิ่งใดเป็นคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้าชีวิตของเราจะได้ไม่ไถลออกไปนอกทาง มรรค ผล พระนิพพาน
สุดท้ายนี้อาตมาขอความสุขความเจริญและสิ่งที่ดีงามจงบังเกิดมีแกพุทธศาสนิกชนผู้ยินดีในธรรมทุกท่านทุกคนเทอญ.
Re: ธรรมะสว่างใจเรื่อง มีแต่ไม่เอา
สาธุ สาธุ สาธุ
ratmaw- จำนวนข้อความ : 1
Join date : 22/04/2013
ที่อยู่ : ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ลำปาง
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Wed Apr 24, 2013 3:49 pm by ratmaw
» โครงการพลังงานทดแทน จักนยานปั่นไฟ
Thu Jun 02, 2011 6:54 am by Dorenatt
» อยากทราบเรื่องใส้เดือนครับ
Mon Mar 07, 2011 7:41 pm by chaimongkol
» งานยกฉัตรเจดีย์และบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุ พระธาตุ
Tue Aug 04, 2009 9:31 pm by chaimongkol
» พุทธสุภาษิตวันนี้
Tue Jul 21, 2009 7:25 pm by chaimongkol
» สิ่งที่ไม่ควรทำหลังทานอาหารอิ่ม!
Mon Jul 20, 2009 2:28 am by chaimongkol
» พิธีเข้ารุกขมูล(เข้ากรรม)26 ธ.ค.51-2 ม.ค.52
Sun Jul 19, 2009 9:12 pm by chaimongkol
» ปุ๋ยอินทรีย์--ปุ๋ยมูลไส้เดือน
Sun Jul 19, 2009 7:56 pm by chaimongkol
» บ้านกำนัน ตำบลไหล่หิน
Sun Jul 19, 2009 12:04 am by chaimongkol
» โครงการสร้างชุมชนเข้มแข็งและการพัฒนาอย่างยั่งยืน
Sat Jul 18, 2009 7:26 pm by chaimongkol