Latest topics ข่าวประชาสัมพันธ์ วัดชัยมงคลฯ ขอเชิญเข้าร่วมโครงการสร้างชุมชนเข้มแข็งและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาพอเพียง >>รายละเอียดธรรมะสว่างใจเรื่องร่วมสร้างชุมชนเข้มแข็งและสังคมคุณธรรม>>รายละเอียด เชิญพุทธศาสนิกชนทุกท่านร่วมทำวัตรเช้า(05.00 น.)-เย็น(20.00 น.) เพิ่มเติม ข่าวโครงการ ข่าวกิจกรรม ค้นหา ขอขอบคุณ คณะศรัทธาทุกท่าน ที่ให้ความร่วมมือกันด้วยดีมาโดยตลอด จัดทำโดย ลูกศิษย์วัด | ประวัติ บ้านไหล่หิน Thu Jul 16, 2009 2:56 am by chaimongkol <<หน้าแรก ประวัติบ้านไหล่หินโดยสังเขป ตำบลไหล่หิน อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง เรียบเรียงโดย นายดวงจันทร์ ครุขยัน กิระดังได้ยินมาว่า บ้านไหล่หิน หมู่ที่ 2 ตำบลไหล่หิน อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง ห่างจากที่ว่าการอำเภอเกาะคา ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 6 กิโลเมตรเศษ มีแม่น้ำแม่ยาวไหลผ่านอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร และพร้อมพรั่งไปด้วยโบราณสถานโบราณวัตถุที่หาดูได้ยากในสมัยนี้แล้วยังมีปูชนียบุคคลที่ควรกราบไหว้บูชาควรแก่การทัศนาเป็นอย่างยิ่งมีสถานศึกษาและยังมีวัดในพระพุทธศาสนาสำหรับเป็นที่พึ่งทางใจอยู่ถึง 2 วัดด้วยกัน คือ 1. วัดเสลารัตนปัพพตาราม(ไหล่หินหลวงแก้วช้างยืน) ซึ่งเป็นวัดที่เก่าแก่ทางศิลปกรรมและได้ขึ้นทะเบียนกำหนดเป็นเขตโบราณสถานในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 97 ตอนที่ 159 ลงวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2523 สิ่งปลูกสร้างภายในเขตพุทธาวาส และบริเวณเขตสังฆาวาสนับว่าเป็นศิลปแบบลานนาไทยมีลวดลายแพรวพราวมีรูปทรงที่สวยงามมากแบบลานนาซึ่งหาดูได้ยากในสิ่งปลูกสร้างในสมัยนี้พร้อมทั้งพระธาตุเจดีย์ที่ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุขององค์พระสัมมา สัมพุทธเจ้าและพระบรมธาตุก็ได้บรรจุก่อนวัดพระธาตุลำปางหลวง จึงมีความเชื่อว่าวัดไหล่หินหลวงเป็นพี่วัดพระธาตุลำปางหลวงในพระวิหารนอกจากจะมีพระประธานแล้วยังมีรูปปั้นของพระมหาป่าเกสรปัญโญประดิษฐานเพื่อที่จะได้สักการะบูชาอีกด้วย ภายในโรงธรรมมีคัมภีร์ใบลานอันเก่าแก่ของลานนาไทยอันเป็นที่น่าสนใจของนักค้นคว้านักศึกษานักโบราณคดีอยู่ในขณะนี้และได้สำรวจทำทะเบียนพระคัมภีร์ใบลานของสยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมถ์ไว้แล้ว ซึ่งเป็นเอกสารจารึกเป็นภาษาบาลีมีอายุเกินกว่า 500 ปี จึงทำให้เรารู้ว่าเรามีอักษรลานนาไทยใช้มาแล้วเกินกว่าครึ่งสหัสพรรษ์ขึ้นไปทำให้เราทราบว่าหนังสือไตเหนือมีมาก่อนที่ลายสือไทยของพ่อขุนรามคำแหงเรานั่นเองคัมภีร์บางเรื่องมีอายุเกินกว่าพันปี คือมีอายุ 1,136 ปี ชื่อ “ปณณาสนิบาติ” จารเมื่อ จ.ศ. 192 เลขที่สำรวจ ส.ส.ล.ป. 396/2509 มี 7 ผูก รวม 250 หน้า ยาว 57½ ซ.ม. กว้าง 5 ซ.ม. มี 5 บรรทัดต่อ 1 หน้า และทางวัดได้รวบรวมวัตถุโบราณสมัยต่างๆ อาทิ พระแก้วมรกต พระเครื่องลาง เครื่องปั้นดินเผาเครื่องเงินทองและของใช้ทุกอย่างในสมัยโบราณไว้ในพิพิธภัณฑ์ให้ประชาชนผู้สนใจได้ทัศนศึกษาอีกด้วย และยังมีป่าขนาดเล็ก เต็มไปด้วยต้นไม้ยาง ยืนต้นเป็นตระหง่าน แต่ละต้นมีอายุนับหลายร้อยปี สมัยก่อนเมื่อ 40 กว่าปี ได้มีฝูงอีแร้ง อีกา มาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากจนถึงพ.ศ.2510 ไม่ทราบว่า อีแร้ง อีกาทั้งฝูงได้อพยพไปอยู่ในแห่งหนตำบลใดมิทราบ โดยมีลำน้ำแม่ยาวไหลผ่านเปรียบเสมือนเป็นสายโลหิต หล่อเลี้ยงเหล่าประชา ที่อาศัยอยู่ตามลำน้ำแม่ยาวเป็นอย่างดี ณ พ.ศ. 2534 โดยมีพระอธิการทอง อนามโย ( ทอง จอมแปง) เป็นเจ้าอาวาส 2. วัดชัยมงคลธรรมวราราม (ไหล่หินใหม่) สร้างเมื่อ พ.ศ. 2480 โดยพ่อผู้ใหญ่ป้อ ครุขยัน ได้บริจาคที่ดินและเป็นประธานสร้างพร้อมด้วยคณะศรัทธาบ้านไหล่หิน เพื่อถวายให้หลวงพ่อท่านพระครูธรรมาภิวงศ์เจ้าคณะจังหวัดลำปาง (ธรรมยุติ) ในสมัยนั้นสิ่งปลูกสร้างเป็นแบบสมัยใหม่ภายในพระวิหาร(ต่อมาได้ผูกพัทธสีมา)ได้ประดิษฐานพระประธาน ซึ่งมีพุทธลักษณะสวยงามมาก ควรแก่การกราบไหว้บูชาเป็นอย่างยิ่งเป็นปูชนียสถานสำคัญภายในวัดด้วยเหตุนี้วัดไหล่หินใหม่จึงเป็นสำนักของนักปราชญ์ นักปฏิบัติธรรม ได้รับการอุปถัมภ์จากคณะศรัทธาทั้งในหมู่บ้านและทั่วทุกสารทิศเป็นอย่างดีจึงทำให้วัดไหล่หินใหม่เจ้าอาวาสส่วนมากเป็นผู้แตกฉานในทางธรรมเป็นเลิศทำให้วัดเป็นศูนย์รวมวรรณกรรมอันล้ำค่าเป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวทางใจ เป็นศาสนสถานที่น่าสนใจอาทิในแต่ละปีจะมีกิจกรรมในวันสำคัญทาพระพุทธศาสนามาโดยตลอดโดยพระอาจารย์ผู้ทรงคุณธรรมในการเผยแพร่ธรรมะ ณ พ.ศ. 2534 คือ พระครูมงคลชัยสุนทร (จรัญ วรรณมณี) เดิมทีก่อนที่ พระอรหันต์เจ้า จะมาสร้างวัด และสร้างองค์พระธาตุเจดีย์เพื่อที่จะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่วัดไหล่หินหลวงนั้นชาวบ้านได้อาศัยอยู่ตามไหล่เขาเป็นหมู่บ้านอยู่แล้วส่วนชาวบ้านกลุ่มนี้ไม่ได้ปรากฏหลักฐานว่าได้อพยพมาจากแห่งหนตำบลใดมาตั้งรกรากอยู่ในหมู่บ้านนี้แต่สำเนียงภาษาในการพูดคล้ายกับสำเนียงของชาวนพบุรีศรีนครพิงค์(เชียงใหม่)มาจากปู่ทอนปู่ยักข์ ส่วนหมู่บ้านไหล่หินมีมาก่อนแล้วต่อมาเกิดเป็นหมู่บ้านที่ใหญ่โตมาจนถึงปัจจุบันนี้ Comments: 3 รายนามเจ้าอาวาสวัดชัยมงคลฯ Thu Jul 16, 2009 1:57 am by chaimongkol รายนามเจ้าอาวาส 1.พระติ๊บ ไม่ทราบฉายา พ.ศ. 2480-2482 รก.เจ้าอาวาส 2.พระสำรวม ไม่ทราบฉายา พ.ศ. 2482-2485 รก.เจ้าอาวาส 3.พระสงวน ไม่ทราบฉายา พ.ศ. 2485-2486 รก.เจ้าอาวาส 4.พระอธิการใจ ถาวโร พ.ศ. 2486-2498 เจ้าอาวาส 5.พระครูพิพัฒน์ศิลาจารย์(บัว ยโสธโร) (พระราชเมธาจารย์) พ.ศ. 2498-2507 เจ้าอาวาส 6.พระอธิการบุญเลื่อน ธมฺมธโร(วรรณมณี) พ.ศ. 2507-2517 เจ้าอาวาส 7.พระอธิการแก้วมา ทีฆายุโก(นิวาโต) พ.ศ. 2517-2530 เจ้าอาวาส 8.พระครูมงคลชัยสุนทร(จรัญ อคฺคจาโร) พ.ศ. 2530-2545 เจ้าอาวาส 9.พระไพบูลย์ ปภาโต พ.ศ. 2545-2547 รก.เจ้าอาวาส 10.พระเกษม ปญฺญาธโร พ.ศ. 2547-2547 รก.เจ้าอาวาส 11.พระหาญ สุทฺธสีโล(เทพหินลัพ) พ.ศ. 2547-2548 รก.เจ้าอาวาส 12.พระประยูร ฉนฺทสาโร(ดวงชัย) พ.ศ. 2549-2550 รก.เจ้าอาวาส 13.พระบุณยกร จิตฺตกุสโล(ทาฟู) พ.ศ. 2551-2551 รก.เจ้าอาวาส 14.พระครูสังฆรักษ์วิชพงษ์ อิสฺสรธมฺโม พ.ศ. 2552-ปัจจุบัน เจ้าอาวาส Comments: 0 ประวัติวัด Wed Jun 03, 2009 10:51 pm by chaimongkol กิระ ดังได้ยินมาว่า วัดชัยมงคลธรรมวราราม (ไหล่หินใหม่ ธ.) ต.ไหล่หิน อ.เกาะคา จ.ลำปาง ห่างจากที่ว่าการอำเภอเกาะคาไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 6 ก.ม. เศษ มีน้ำแม่ยาวไหลผ่านเปรียบเหมือนเป็นสายโลหิตหล่อเลี้ยงของชาวไหล่หินก็ไม่ ผิด (โหล่งยาว) อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร และมากไปด้วยน้ำใจที่ดีงาม ชุ่มฉ่ำ เยือกเย็น ประดุจดั่งสายน้ำในลำน้ำแม่ยาว พร้อมทั้งร่มเงาของเหล่าต้นไม้ยางที่ยืนตระหง่าน สูงเฉียดฟ้า และมองไปทางทิศ เหนือ ใต้ ออก ตก ก็มองเห็นหมู่บ้าน ทุ่งนา อันกว้างใหญ่ไกลลิบลิ่วสุดลูกหูลูกตา มองเห็นป่าไม้ ภูเขาเขียวขจีทำให้ชวนถวิลเป็นยิ่งนัก ยิ่งไปกว่านั้นชาวไหล่หินเขตคาม ยังมีวัดในพระพุทธศาสนาถือเป็นปูชนียสถานเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจถึง 2 วัด และเพรียกพร้องไปด้วยเสียงนกเสียงกา และผู้คนพูดจากันด้วยสำเนียงอันนุ่มนวลอ่อนหวานน่าฟังเป็นยิ่งนัก พร้อมทั้งมีสถานศึกษาทั้งทางโลกและทางธรรม ฉะนั้นส่วนใหญ่จึงเป็นสำนักของนักปราชญ์ นักปฏิบัติธรรม แตกฉานในธรรมะ เพื่อเผยแผ่พระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โปรดแก่คณะศรัทธาญาติโยม เป็นสิ่งที่เราภูมิใจไปตลอดกาลนิรันดร์และมีปูชนียสถานที่น่าสนใจของชาวพุทธ เราอีกวัดหนึ่ง นั่นคือ"วัดชังมงคลธรรมวราราม"(ไหล่หินใหม่ ธ.) อนุสนธิ เนื่องจากวัดชัยมงคลธรรมวราราม หรือวัดไหล่หินใหม่ ธ. เดิมทีเป็นที่นา และบางส่วนเป็นสันดอน สำหรับปลูกสวนครัว ต่อมาปี พ.ศ. 2479 ท่านพระครูธรรมาภิวงค์ นั้นโดยเฉพาะบ้านไหล่หิน เป็นถิ่น ปิตุ และมาตุภูมิของท่าน ได้อุปสมบทวัดไหล่หินหลวง และได้ไปเรียนหนังสืออยู่ที่วัดบรมนิวาสวิหาร กรุงเทพมหานคร แล้วกลับมาเป็นเจ้าอาวาสวัดเชตวัน ในเมืองลำปาง ซึ่งเป็นวัดธรรมยุตนิกาย ส่วนวัดไหล่หินหลวง เป็นวัดฝ่ายมหานิกายไม่สะดวกในการกระทำสังฆกรรมท่านเป็นเจ้าคณะอำเภอใน จังหวัดลำปาง ธ. ต่อมาได้เลื่อนเป็นเจ้าคณะจังหวัดลำปาง Comments: 4 | เข้าสู่ระบบ(Log in) ผู้ที่กำลัง online ผู้ที่ online ทั้งหมด 2 คน :: ลงทะเบียน 0 คน, ซ่อน 0 คน และ 2 ผู้มาเยือน (ไม่มี) มีผู้ใช้ online พร้อมกันสูงสุด 39 คน เมื่อ Thu Feb 01, 2024 7:44 pm |
|
|
Wed Apr 24, 2013 3:49 pm by ratmaw
» โครงการพลังงานทดแทน จักนยานปั่นไฟ
Thu Jun 02, 2011 6:54 am by Dorenatt
» อยากทราบเรื่องใส้เดือนครับ
Mon Mar 07, 2011 7:41 pm by chaimongkol
» งานยกฉัตรเจดีย์และบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุ พระธาตุ
Tue Aug 04, 2009 9:31 pm by chaimongkol
» พุทธสุภาษิตวันนี้
Tue Jul 21, 2009 7:25 pm by chaimongkol
» สิ่งที่ไม่ควรทำหลังทานอาหารอิ่ม!
Mon Jul 20, 2009 2:28 am by chaimongkol
» พิธีเข้ารุกขมูล(เข้ากรรม)26 ธ.ค.51-2 ม.ค.52
Sun Jul 19, 2009 9:12 pm by chaimongkol
» ปุ๋ยอินทรีย์--ปุ๋ยมูลไส้เดือน
Sun Jul 19, 2009 7:56 pm by chaimongkol
» บ้านกำนัน ตำบลไหล่หิน
Sun Jul 19, 2009 12:04 am by chaimongkol
» โครงการสร้างชุมชนเข้มแข็งและการพัฒนาอย่างยั่งยืน
Sat Jul 18, 2009 7:26 pm by chaimongkol